จากบทความงานเขียนแบบก่อสร้างตอนที่แล้วเราได้ทราบหลักเบื่องต้นของการเขียนแบบไปแล้วนะครับ วันนี้เรามาเริ่มทำความเข้าใจกันต่อเลย กับตอนที่ 2
อย่างไรก็ดีมีปัจจัยหลายอย่างที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับขนาดของเส้นที่จะนำมาใช้
- มาตราส่วน (scale ที่ใหญ่ขึ้น จะใช้เส้นหนากว่า scale เล็ก)
- รายละเอียด (มาก – น้อย) ที่แสดงในแบบ
- วิธีการพิมพ์, เครื่องพิมพ์
ขนาดของเส้น
ตามมาตรฐาน มอก.440
(1-2525) กำหนดความหนาไว้
ดังนี้ 0.13 0.18 0.25 0.35 0.50 0.70 1.00 1.40 2.00 มม
อัตราส่วนของเส้นที่แนะนำให้ใช้คือ 1:2:4
เช่น เส้นบาง 0.18 มม. เส้นหนา 0.35 มม. เส้นหนามาก 0.70
การให้มิติระยะ
(Dimension) ในการเขียนแบบ
องค์ประกอบของการเขียน
dimension
องค์ประกอบของเส้นมิติ มี 3 ส่วนดังนี้
- ตัวอักษรกำกับมิติ (Dimension Lettering)
- เส้นมิติ (Dimension Line)
- เส้นฉาย (Extension Line)
ตัวอักษรกำกับมิติ (Dimension Lettering)
- วางกึ่งกลางของเส้นมิติ โดยวางขนานในทิศทางเดียวกันกับเส้นมิติ และวางอยู่เหนือ เส้นมิติเล็กน้อย
- ขนาด แบบอักษร ควรใช้แบบมาตรฐานเดียวกัน และใช้หน่วยวัด (unit) เดียวกัน
- ตัวเลขในเส้นมิติใช้ขนาดเล็ก คือ 0.18-0.25 (ขนาดเดียวกับคำอธิบาย)
- ไม่ควรตัดเลขศูนย์หลังทศนิยมออก เช่น 2 เมตร ควรแสดงด้วยเลข 2.00 ไม่ใช่ 2 เฉยๆ
เส้นมิติ (Dimension Line)
- แสดงด้วยเส้นบาง ให้มีความแตกต่างจากเส้นแสดงวัตถุ
- ควรวางไว้ในตำแหน่งที่ไม่ชิด หรือห่างจากเส้นแสดงวัตถุมากเกินไป โดยปกติแล้วจะมีระยะห่างประมาณ 0.75-1 ซม.
- จัดให้เป็นระเบียบ เป็นกลุ่มก้อนเดียวกัน ไม่รกรุงรังทำลายรูปแบบของงาน
เส้นฉาย (Extension Line)
- ในการเขียน Dimension ต้องมีเส้นฉายด้วยเสมอ
- แสดงด้วยเส้นบาง ให้มีความแตกต่างจากเส้นแสดงวัตถุ
- ควรลากให้เข้าใกล้รูป หรือส่วนที่แสดงระยะเพื่อให้รู้ตำแหน่งในการวัดที่แน่นอน
- เส้นฉายต้องไม่ลากตัดเส้นมิติโดยเด็ดขาด เพราะจะทำให้การอ่านแบบผิดพลาดได้
![]() |
ภาพแสดงการจัดวาง Dimension ในผังพื้น
|
สัญลักษณ์กำกับปลายเส้นมิติ
การใช้สัญลักษณ์กำกับเส้นมิติ
การใช้สัญลักษณ์กำกับเส้นมิติ
![]() |
ตัวอย่างแสดงการใช้เครื่องหมายกำกับระยะผสมกันอย่างเป็นระบบ |
![]() |
ตัวอย่างแสดงการใช้เครื่องหมายกำกับระยะผสมกันอย่างเป็นระบบ |
ระบบ กริด (Grid System)
ระบบ กริดใช้อ้างอิงตำแหน่งโครงสร้าง เช่น เสา ผนังรับน้ำหนัก มีประโยชน์คือ
- ทำให้ผู้อ่านสามารถรู้ตำแหน่งได้ทันที่ทั้งในผัง รูปตัด, รูปด้าน, และแบบขยาย
- ใช้อ้างอิงในการให้ระยะ ในส่วนต่างๆ ทั้งในแบบ และในงานก่อสร้าง
![]() |
ภาพแสดงการอ้างอิงระยะในแบบจากตำแหน่งกึ่งกลางเสา |
สัญลักษณ์กำกับแนวเสา (Grid Notation)
สัญลักษณ์กำกับแนวเสา กับอยู่ที่ปลายด้านของเส้นกำกับแนวเสาในแนวระดับ และในแนวดิ่ง เป็นตัวอักษรและตัวเลข อยู่ในวงกลม มีเส้นที่ปลาย คล้ายลูกโป่ง
- สัญลักษณ์กำกับแนวเสาในแนวระดับควรใช้เป็นตัวเลข เรียงลำดับจากซ้ายไปขวา เส้นกริดในแนวระดับใช้เป็นตัวอักษร ควรใช้เป็นตัวอักษรภาษาอังกฤษตัวใหญ่ (Capital Letter) และควรหลีกเลี่ยงตัว O (โอ) และ I (ไอ)
- สัญลักษณ์กำกับแนวเสา โดยปกติแล้วจะเขียนกำกับไว้ที่ด้านเดียว คือในแนวระดับมักจะอยู่ด้านบน และในแนวดิ่งถ้าไว้ด้านซ้ายควรกำหนดให้เรียงจากบนลงล่าง ถ้าไว้ด้านขวาควรกำหนดให้เรียงจากล่างขึ้นบน เพื่อให้ได้ตัวอักษรเรียงกันในรูปด้าน และรูปตัด
- มีข้อแนะนำว่าหากไว้ด้านขวาจะทำให้อ่านแบบได้ง่ายกว่าเมือเย็บเล่มแบบ ซึ่งตรงกับมาตรฐานของ ISO
- ในบางโครงการจะวางไว้สัญลักษณ์กำกับแนวเสาที่ปลายทั้ง 2 ด้านก็ได้ เพื่อความสะดวกในการอ่านแบบ
เส้นกำกับแนวเสา (Column Line)
- เส้นกำกับแนวเสาจะแสดงหรือไม่ก็ได้ ถ้าแสดงจะลากผ่านเข้าไปในแบบ หรือหยุดให้เข้าใกล้แบบให้มากที่สุด
- โดยปกติจะแสดงเส้นกำกับแนวเสาไว้ที่กึ่งกลางของเสา แต่ไม่จำเป็นเสมอไป ในบางกรณีหรือในบางโครงการจะอยู่ที่ขอบก็ได้ ขึ้นอยู่กับวิธีการก่อสร้าง เช่นเสาต้นทีชิดขอบที่ดิน อาจจะแสดงเส้นกำกับไว้ที่ขอบ เพื่อกำหนดแนวเริ่มต้นในการก่อสร้าง
- ใช้เส้นบางกว่าเส้นแสดงวัตถุ
- หากมีแนวเสาเพิ่มขึ้นมาระหว่างเสา 2 ต้นให้ใช้เป็นจุดทศนิยม เช่นระหว่างเสาแนวที 4 กับ 5 ใช้ 4.5 และระหว่าง B กับ C ใช้ C.5
![]() |
ขนาดและรูปแบบของ สัญลักษณ์กำกับแนวเสา |
ภาพแสดงการเขียนเส้นกำกับแนวเสาต่อเนื่องกับการให้ระยะโครงสร้าง
และสัญลักษณ์กำกับแนวเสา
ระบบพิกัด (Coordinate System)
ระบบพิกัดใช้ระบุตำแหน่งของอาคาร
ในการเขียนผังบริเวณจะต้องระบุตำแหน่งของอาคารทั้งในแนวระนาบและแนวดิ่ง ใน แนวระนาบระบุตำแหน่งของอาคารโดยอ้างอิงจากมุมใดมุมหนึ่งถึงหมุดเขตที่ดินเพื่อให้สามารถกำหนดแนวจุดเริ่มต้นได้ และต้องกำหนดค่าความสูงของพื้นระดับต่างๆของอาคารอ้างอิงจากระดับสมมติ ± 0.00 ซึ่งสัมพันธ์กับระดับสำรวจ (Survey Datum)
![]() |
การกำหนดตำแหน่งอาคารและระดับพื้น ในผังบริเวณ |
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น